เรียนSFI ภาษาสำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยในสวีเดน

สวัสดีค่ะ  

เกดเพิ่งเริ่มเรียนSFI ได้อาทิตย์นึงละค่ะ  ขอเกร่นความหลังก่อนนะคะ...

หลังจากสมัครเรียนรอประมาณครึ่งปี ก็ได้รับจม. แจ้งสถานที่ และเวลา เราก็ไปตามกำหนด จริงๆเราก็นึกว่าเค้าเรียกตามความพร้อมเฉยๆ ไม่นึกว่าจะมีเทสด้วย เข้าไปมีนร.ในห้องประมาณสามสิบคน ครูก็เดินเข้ามาซัดภาษาสวีดิชยาววว...  

เราก็ฟังรู้บ้างไม่รู้บ้าง  ละก็แจกกระดาษพร้อมดินสอ สุดท้ายครูก็บอกว่า Write any swedish words, How many you can! แอบเห็นแขกอาหรับที่นั่งข้างๆ คงเตรียมตัวมาแล้ว... เขียนยาวเป็นประโยค . . . . ส่วนเราก็เขียนเฉพาะคำศัพท์ที่เราสะกดเป็น ไม่มีตัว  å ä ö   เอาเฉพาะ หมู หมา กาไก่ วัน เดือน ปี รถ รา รวมแล้วเกือบ 30 คำ เราก็นั่งคิดๆอยู่นั่น จะเขียนต่อ ลืมดูว่าเพื่อนเค้าส่งกระดาษกันหมดแล้ว ครูบอก พอๆ ส่งได้แล้ว ก็เลยต้องส่ง..

ครูรวบรวมกระดาษทั้งหมด เสร็จเรียกชื่อเราคนแรก แล้วก็บอก "ตามมาๆ " ครูเดินเข้าไปในห้องพักครู ....ยื่นหนังสือ ให้อ่านค่าาาา!? เป็นหนังสือเรียนของเด็กๆ โชคดีเป็นศัพท์ง่าย และเรารู้ทั้งหมด อ่านไป2หน้า ครูบอกว่าพอๆ 

เสร็จก็สัมภาษณ์ ( เหมือนสัมภาษณ์วีซ่าเลยค่ะ ) ทำงานมากี่ปี มีพี่น้องกี่คน ละก็อีกหลายอย่าง จำไม่หมด.. ทุกอย่างเป็นสวีดิชหมด ครูแอบแปลบ้างเล็กน้อย หลังจากนั้นครูก็บอกว่า เรียนออนไลน์ไปพลางๆก่อนนะ ได้คิวเรียนน่าจะกลางเดือนก.พ.58 เธอจะได้จม.แจ้ง

 เราได้รับจม.แจ้งวันที่ 6/02/58 ให้ไปเรียน 9/02/58 .... 😳ห๊า!!  ทำไมแจ้งมากระชั้นชิดจัง😣 

และแล้ววันนั้นก็มาถึง... 9/02/58  ... โห คนเยอะมากๆ เค้านัดเราห้อง 413 แต่ห้อง 413 เค้าประกาศว่าหรับนร.ที่พูดภาษาอราบิคเท่านั้น  อ่าว..ไงหละ😨 เดินให้วุ่น เราเจอสาวน้อยหน้าไทยคนนึง ก็เลยทัก ปรากฏ นางเป็นคนเวียดนามค่ะ คุยกันไปถามกันมาว่านัดห้องนี้ใช่ป่าว จู่ๆก็มีครูคนนึงโผล่มา บอกว่านร.ภาษาอื่น ตามมาอีกห้องค่ะ

เราเดินเข้าให้ไป ไปนั้งข้างๆป้าเวียดนามคนนึง ละเราก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นล่ามภาษาเวียดนาม นึกว่าเป็นนร. ซัดเวียดนามกะเพื่อนเราที่เพิ่งทำความรู้จัก  ป้าเวียดนามถามว่า เธอมาจากไหน พูดอังกฤษใช่มั้ย เราก็บอกได้  ป้าแกก็บอก Go sit near him, he speak english ! เราก็งง อะไรของป้า คือ ไม่บอกเราว่าเค้าเป็น translator เราก็ไป เพราะต้องขยับเก้าอี้ให้เพื่อนอีกคนอยู่แล้วที่ไม่พอ 

ซักพักนึง ครูเดินมาถามว่าใครพูดภาษาไทย เรายกมือ เสร็จเค้าก็ชี้ไปข้างหลัง มีพี่คนนึงเป็นคนไทย เราก็นึกว่าเป็นนร. อีก ก็ยิ้มให้ ( โง่ไง 5555 คือ ป้าเวียดนามก็ไม่บอกว่าเป็น translator ทำให้เรางงกะการเปลี่ยนที่นั่ง ) เราไม่ลุกไปนั่งข้างพี่ไทยคนนั้นนะ เค้าเห็นเราเดินเข้ามา แต่ไม่พูด ไม่ทักไม่ถามซักคำ นั่งหลังเราห่างกันไม่ถึงคืบ😕

แล้วก็เริ่มครูก็ชี้แจ้งไปได้นิดหน่อย ที่นี้ก็เกิดการแปลภาษากัน นั่นแหละเราถึงบางอ้อ!!! 

แล้วพี่ไทยก็สะกิดเรา ให้เขยิบไปนั่งข้างหลัง เม้าส์กะพี่เค้านิดหน่อย ถามเค้าว่าสมัยพี่เรียนเรียนกี่ปี พี่แกบอก3ปี เรานี่ตาลุก! พี่เค้าบอกปัจจุบันอาจเปลี่ยนละม้างงง สมัยพี่เรียนน่ะนาน ต้องมีดิกชันนารีด้วยนะ เล่มละเกือบ1,000โครน หนูไปหายืมห้องสมุดเอาก็ได้นะ มันแพง.. เราคิดในใจ ( โหลดแอปง่ายกว่ามั้ย ?  มีเสียงด้วย ) .. แล้วครูก็มา ผอ.ก็มาแนะนำตัว อธิบายคอร์สเรียนนั่นนี่ ระยะเวลา เราจะจด พี่เค้าก็บอกไม่ต้องจด เดี๋ยวมีกระดาษแจก เราไม่จด สุดท้าย ได้รับกระชี้แจง ข้อมูลไม่ครบ ไม่มีรายละเอียดตามที่เค้าอธิบาย เราทำไง ต้องกลับไปบ้านเปิดเวป จบวันนึง

สรุปเวลาเรียน

 จ. พ. พฤ. ศ. 12:45-16:30 น. ( อ. หยุดเพราะครูsfiประชุม )

วันพฤ.มีเรียนร้องเพลง 15:00-15:45น. ส่วน ศ.เรียนห้องคอม 12:45-14:30น.

เรียน5อาทิตย์ จากนั้นสอบเลื่อนคอร์ส

                   ---------------------------------

วันแรกครูก็เริ่มสอน อ่านออกเสียง A-Ö และวันอื่นๆก็ พวกการแนะนำตัวพื้นฐาน การแยกเพศสิ่งของ en ett อันนี้ต้อง follow your heart นะจ๊ะ ครูบอก เพราะไม่มีกฏที่ชัดเจน คนสวีดิชเองก็ยังแยกผิด... ( คือ แล้วจะแยกทำไมฟร่ะ 😯 )

วันศุกร์ที่ 13/02/58

มีผช.คนนึงหน้าตาเอเชียอายุประมาณยี่สิบกว่าๆเข้ามาทักว่า มาจากปท.อะไร เราตอบไทย เราก็ถามเค้าเค้าตอบอินโด เสร็จเค้ามองที่แฟ้มเอกสารการเรียนของเรา เค้าถามขอดูได้มั้ยอยากรู้ว่าเรียนเหมือนกันมั้ย เราบอกได้ 

เค้าบอกไม่เหมือนกัน ห้องเค้าแค่หัดเขียน A-Ö เค้าถามว่าเราที่ไทยมากี่ปี เราบอก 17ปี เค้าบอกเค้าเรียนแค่ 5ปี

แต่เค้าพูดอังกฤษคล่องนะ เค้าอยากขอย้ายกรุ๊ปเรียน แต่ครูไม่อนุญาติ ละก็ซ่ายหัวทำหน้าเซ็งๆ

ละตามที่บอกวันศุกร์. เรียนห้องคอม ก็สอนให้เข้าเวป E-learning ค่ะ

www.itslearning.se โดยมียูเซอร์เนมและรหัสผ่านของแต่ละคนแจกให้  มีอีกเวปนึงนะคะ ถ้าใครอยากเรียนรู้อยากลองทำแบบฝึกหัด โดยไม่จำเป็นต้องมียูสเซอร์ฯ www.hejsvenska.se ค่ะ ลองเข้าไปดูได้ หรือ จะโหลดแอปมือถือแทปเลตก็มี ทั้งฟรี และ เสียตังค์ค่ะ

สรุป. เกดขออธิบายหลักสูตรการเรียนSFI ตามนี้นะคะ

มีทั้งหมด4คอร์ส A B C D เค้าจะพิจารณาจากแบคกราวเราว่าผ่านการศึกษามากี่ปี ถ้าระดับวิทยาลัยหรือมหาลัย จะได้ลงคอร์ส C ค่ะ 

ระดับมัทธยมหรือเทียบเท่า จะได้ลงคอร์ส B

ส่วนนร.ที่ผ่านการเรียนมาไม่เกินป.6 ก็ลงคอร์ส A ค่ะ. 

Study 1 aimed primarily at people who went to school a short time, 0-6. If you can not read and write in your native language, you can start on the path chosen one in a class of illiterate. Study 1 provides courses A and B.

Study 2 aimed primarily at people who passed grade school or high school. Study 2 contains course B and C.

Study 3 people who have studied at college or university. Study 3 contains courses C and D. 

ตามรูป เกดอยู่คอร์ส 1C บน 2B หลังจากเรียน 5 อาทิตย์ และสอบ ถ้าไม่ผ่านเกดก็มีสิทธิ์หล่นไปอยู่ 2B ค่ะ

แต่ถ้าผ่านก็ไป 2C ต่อได้เลย คอร์ส  C+D ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 35-40 อาทิตย์ค่ะ

ขนมปังนู๊มมมมมนุ่ม สูตรญี่ปุ่น

วิธีทำขนมปังนมสดนู๊มนุ่ม สูตรญี่ปุ่นค่ะ สูตรนี้ใช้ได้ทั้งมือและเครื่องค่ะ

เกดอาจใช้คำไม่ถูกต้องอาจงงๆกันหน่อยนะคะ เพราะเป็นสูตรที่กะปริมาณเองค่ะ

ส่วนประกอบ

แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 

1. แป้งขนมปัง ( ใช้ของแหลมทองค่ะ เนื้อขนมปังเหนียมนุ่มกำลังดี ) 300 กรัม 

2. เกลือ 2 ชช.

3. น้ำตาล 3ชต.

ส่วนที่ 2 ( แป้งเปียก ) ตัวช่วยทำให้ขนมปังนุ่ม ประกอบไปด้วย

1. แป้งขนมปัง 1/3 ถ้วยตวง

2. นมสด 1 ถ้วยดวง

3. ไข่ไก่ 1 ฟอง

4. ยีสต์แห้ง 2ชช.

5. น้ำตาล 2 ชต.

6. เนยจืด 1 ชต.

วิธีทำ.

1. เริ่มจากทำตัวแป้งเปียกก่อน นำนมสด 1 ถ้วยตวง ผสมกับ แป้งขนมปัง 1/3 ช้อนตวง

คนให้เนียนเข้ากันก่อนหลังจากนั้นนำไปตั้งไฟ 

ใช้ไฟเบาๆ อุณภูมิ 60 ํF คนอยู่ตลอดอย่าวางมือค่ะ 

ระวังอย่าให้เนื้อแป้งเป็นก้อนๆ และอย่าปล่อยให้เดือดค่ะ 

 จนได้ที่เป็นเนื้อครีมข้นๆแบบนี้ ปิดไฟได้เลย แต่ยังคนอยู่นะคะ เพราะความร้อนยังมีอยู่

เดี๋ยวแป้งจะจับตัวเป็นก้อน ( ส่วนนี้เป็นครีมขาวถ้าเหลือเก็บไว้ทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าได้ค่ะ )

เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็นก่อน 

2. แป้ง 300กรัม ใส่ในเครื่องตีไข่  ใส่เกลือ

ในกรณีไม่มีเครื่อง (ใช้มือนวด) ก็ใส่ภาชนะแล้วทำเป็นหลุมตรงกลางแบบนี้  เติมเกลือ ลงไปพักไว้

3. นำนมอุ่น ประมาณ 1 ส่วน 3 แก้ว ( ใช้แก้วน้ำธรรมดากะว่าให้ต่ำกว่าครึ่งแก้ว )

( ถ้าขี้เกียจอุ่นนมก็ใช้นมผสมน้ำอุ่นก็ได้นะคะ )

ต้องไม่ร้อนจัดเดี๋ยวยีสต์ตายหมด ลองเอานิ้วจุ่มดูค่ะ ถ้าอุ่นๆแบบนิ้วเราทนได้ ใช่เลย!

ใส่น้ำตาล 2 ชต. ลงไป คนๆ แล้วใส่ยีสต์ 2ชช. ลงไปคนนิดหน่อย

รอ 5-10 นาที จนยีสต์ฟูเป็นฟอง ถ้ายีสต์ไม่ฟูแสดงว่ายีสต์ตายนะคะ ใช้ไม่ได้ขนมปังจะไม่ขึ้นค่ะ

4. ตวงแป้งเปียกที่เราทำไว้ 1/2 ถ้วยตวง ตอกไข่ใส่ลงไปแล้วตีให้เข้ากัน

จากนั้นใส่ยีสต์ที่เราทำไว้ตามข้อ 3 ผสมให้เข้ากัน ^_^

4. ถ้าใช้มือนวด เทส่วนผสมข้อ 4 ลงไป ทีละน้อยและค่อยๆตะล่อมแป้ง ตามภาพค่ะ

เราชอบผสมใส่แก้วตวงของเหลวแบบนี้ค่ะ เทง่ายดี

สำหรับคนใช้เครื่อง ใช้ความเร็วระดับ 2 ค่อยเทช้าๆ ( ไม่ต้องหมดนะคะ เดี๋ยวแป้งจะแฉะเกินไป ) 

แล้วใช้พายพลาสติกตะล่อมข้างๆ เพื่อให้ส่วนผสมเนียนเร็วยิ่งขึ้น

**  ถ้าตัวแป้งแฉะไม่เป็นก้อนเติมแป้งลงไปอีกได้

พอแป้งเนียนได้ที่ ใส่เนยลงไปค่ะ

สำหรับคนใช้มือ นวดประมาณครึ่งชม.- 45 นาที ใช้เนยช่วยปั้นเป็นก้อนกลมๆ 

ใส่ภาชนะที่ทาด้วยเนย เสร็จแล้วตามจอนนี่มาแรปกันค่ะ 555 wrap นะค๊า มิใช่ rap

ปกติแล้วก้อนโดว์ที่ได้จะขึ้นเร็ว/ช้าขึ้นอยู่กับอุณภูมิด้วยนะค

วันไหนหนาวหน่อยก็ช้าเป็น 2 ชม. 

เราใช้วิธีโกงที่คิดเองตามนี้ค่ะ

นำภาชนะใบใหญ่กว่ามาซ้อนแล้วใส่น้ำร้อนลงไป

คลุมด้วยผ้าและฝาหม้ออีกที เนื่องจากยีสต์ชอบความชื้น

และอุณภูมิที่ร้อนหน่อยเพื่อขยายตัว

** น้ำตาลก็เป็นอาหารของยีสต์ค่ะ

1 ชม. ผ่านไป ฟูๆ แต่ฟูเต็มทีละยังมีวิธีพิสูจน์ค่ะ

เอาแป้งทานิ้วแล้วกดลงไปในแป้ง ถ้าแป้งไม่คืนตัวแสดงว่าแป้งขึ้นฟูเต็มที่แล้ว

ทาแป้งบนมือแล้วหยิบก้อนโดว์ขึ้นมาเลย

ออกแรงนวดเพื่อไล่ลม จะฟัดจะเหวี่ยงตามสบายเลยค่ะ ประมาณ 10 นาที

เสร็จแล้วคลึงให้ยาว ตัดแบ่งเป็นก้อนๆ เล็กใหญ่ตามใจชอบ 

สูตรนี้ถ้าตัดเป็นก้อนเล็กจะได้ประมาณ 15 ลูกค่ะ

อ่อ ลืมบอกอย่าลืมโรยแป้งเล็กน้อยบนที่สำหรับนวดแป้งด้วยนะคะ

ตอนตัดแบ่งเป็นก้อนๆ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ลืม --"

ทาเนยลงบนถาด

นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมโดยเน้นให้หน้าแป้งตึงๆ ค่ะ 

ใช้สองมือกดลงบนตัวแป้งพร้อมกัน นิ้วก้อยจะประคองบังคับฟอร์มของแป้งให้กลม

ทำมุม 45 องศา  กดและบิดไปพร้อมกัน 

แอบใส่ถ้วยไว้ด้วยค่ะ อบเสร็จเป็นดอกเห็ดน่ารักดี ^^

วางก้อนแป้งให้ห่างกันหน่อย แล้วwrapเลยค่า

พักไว้ 30-40 นาที เอาพลาสติกwrapออก 

ระหว่างรออุ่นเตาไว้เลยค่ะ อุณภูมิ 180 องศา หรือ เตาบางบ้านก็ 190 องศา นะคะ

แล้วแต่ ....บ้านเรา 190 ค่ะ ใช้ไฟบนและไฟล่าง

อบเสร็จแว้ววววววววววววววว.....

วางชิดกันมากค่ะ เนื่องจากวันนี้เน้นปริมาณ... 

จริงๆ สองภาพสุดท้ายและภาพแรก เป็นขนมปังไส้ไก่และมันฝรั่งนะคะ

วิธีทำไม่ได้ต่างกันค่า ต้องพักแป้งไว้ 2 ครั้ง 

ไปรษณีย์เอ๋ยไปรษณีย์ไทย.." ใบตอบรับพัสดุตปท."

เคยอ่านเจอคนที่ประสบปัญหากับการส่งพัสดุไปตปท.บ่อยๆค่ะ

ส่งแบบไหนดี ยังไงดี วันนี้เลยขอนุญาตแชร์เนื่องจากเพิ่งไปรษณีย์หมาดๆ

มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นั่น 555 เลยอยากเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคนค่ะ^^

เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ออกไปส่งของให้ลูกค้ามาค่ะ ปลายทางอยู่ที่เมกา

ตั้งใจว่าจะส่งเป็นพัสดุย่อยทางอากาศ+ลงทะเบียน65 และ + บริการเสริมแจ้งตอบรับ 20 บาท

( สำหรับพ่อค้าแม่ค้า เหมาะเลยค่ะ บริการนี้เป็นการป้องกันการโกงจากลูกค้าว่าของไม่ถึงมือ! )

กดคิวปุ๊ป ได้ปั๊ป เอากล่องวางชั่งนน. หนัก 300 กรัมค่ะ

( อัตราค่าบริการคิดจากนน.และประเทศปลายทางดูได้จากที่นี่ค่ะ

 http://www.thailandpost.com/rate-addon.php?itm=2083&addon=62&cntry=US&weight=2 )

ต่อๆ เราบอกน้องเค้าไปตามนั้นว่าเราอยากส่งแบบนี้ๆนะ แล้ว+บริการเสริมแจ้งตอบรับให้ด้วย

พนักงาน ทำเหว๋อ... 

( ขอเกร่นก่อนว่าน้องคนนี้เคยบริการเราแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ส่งแบบ Air mail

น่าจะเป็นพนักงานใหม่เพราะเราส่งประจำไม่เคยเห็นมาก่อน น้องเค้างงๆส่งให้ไม่เป็น

และไม่เข้าใจเราอีกว่า tracking number คืออะไร....จนหัวหน้างานไปรษณีย์ต้องมาช่วย )

ครั้งนี้..น้องเค้าถามเคาเตอร์ข้างๆ " พี่ บริการตอบรับทำไง? "

เคาเตอร์ข้างๆตอบอย่างมั่นใจว่า เสียงดังฟังชัด "มีด้วยหรือคะบริการนี้ ไม่มีนะคะ!"

และถามเรากลับมาว่าเคยใช้บริการนี้มั๊ย เราตอบ "ไม่เคย แต่เห็นจากเวปไปรษณีย์ไทย ว่า มี!

สุดท้าย..พี่หัวหน้าไปรษณีย์ต้องเข้ามาช่วย

( เราไม่รู้จะเรียกพี่เค้าว่าไง เค้าดูเหมือนหัวหน้างานอ่ะนะ)

พี่แกเดินมาที่เคาเตอร์จัดการเองเลยค่ะ พูดชัดๆอย่างเต็มคำว่า " บริการตอบรับต่างประเทศ มีครับ "

พร้อมบอกว่าให้น้องเขียนใบแจ้งตอบรับสีน้ำตาล

ใบสีน้ำตาล......

เอ้....ใบสีน้ำตาล หาๆๆๆๆกันใหญ่ ทุกเคาเตอร์ ไม่มีคร๊าาาาา 

เวร...เราเป็นรายแรกที่ใช้บริการนี้แน่เลย

พี่แกพร้อมกับน้องพนักงานหน้าใหม่เดินขึ้นไปหาชั้น 2 และบอกให้เราไปนั้งรอก่อน

ขณะนั้นนางๆนึง เดินออกจากเคาเตอร์ของตัวเอง

ไปยังอีกเคาเตอร์นึงที่มีเจ้พนักงานรุ่นเดอะอยู่ประมาณ 2-3 คน ซุบซิบๆ

ไม่ต้องเดา ก็รู้ว่าเป็นเรื่องใบสีน้ำตาลของเรานี่แหละ

รอได้พักใหญ่ สุดท้ายก็ได้มาค่ะ...หน้าตาเป็นแบบนี้ แอบมีฝุ่นบางๆเล็กน้อย

ซ้ายมือเขียนที่อยู่ผู้รับ และ ขวามือเป็นที่อยู่เรา

เมื่อผู้รับได้รับพัสดุแล้ว เค้าจะส่งกลับมาเพื่อแจ้งเราค่ะ

ทีนี้..เรื่องยังไม่จบเนื่องจากเราจริงๆเราต้องการส่งเป็นพัสดุย่อยทางอากาศ

เพราะประหยัดกว่า Air Mail ที่ส่งให้ลูกค้าคราวก่อนชัวร์ๆ แต่เด๋วก่อน!!

พี่ไปรษณีย์ : ในกล่องนี้เป็นอะไร?

เรา : เป็นเสื้อกับสร้อยค่ะ

พี่ไปรษณีย์ : ไม่มีจดหมายหรือข้อความนะ

เรา : ไม่มีจดหมายค่ะ แต่มีโน๊ตสติ๊กเกอร์ ขอบคุณลูกค้า 

พี่ไปรษณีย์ :  ไม่ได้นะ ถ้าเค้าเกิดสแกนแล้วสุ่มตรวจแม้แต่ข้อความเล็กๆ

ถ้าเจอเค้าจะตีค่าพัสดุที่เราส่งกลายเป็นจม.ธรรมดา 

ที่นี้แหละ นาน.....( เสียงลากยาววว) กว่าจะถึงมือผู้รับ

Air Mail ดีที่ไม่โดนสุ่มตรวจแต่ก็ราคาแพงกว่า

เพราะเหตุนี้แหละ เราถึงเปลี่ยนใจ ราคาแพงกว่าแต่ก็เป็นราคาที่เรารับได้นะ

อีกอย่างถ้าสินค้าถึงมือลูกค้าล่าช้า เราอาจโดนเรียกเงินคืนจากลูกค้าได้

และอีกเหตุผลนึงก็คือ สินค้าราคามากกว่าห้าร้อย

บวกเราคิดค่าส่งลูกค้ามาเกือบ 400 ค่าส่ง 365 ก็ไม่เสียหายอะไร ^^

สรุปแม่ค้าอย่างเราเลือก Air Mail ค่ะ มั่นใจ 100% ว่าจะไม่เกิดไปหาตามมาภายหลัง

ส่วนคนที่ต้องการส่งพัสดุให้เพื่อน ญาติ หรือ คนรู้จัก 

อยากประหยัดสุดๆ

คำตอบคือ พัสดุย่อยแบบ SAL หรือภาคพื้น อ๊ะอ๊ะ อันนี้ไม่แนะนำค่ะ

รอนาน....มากกกกไม่ใช่แค่เป็นเดือนนะคะ  เป็น 2 เดือนก็ว่าได้ -"-

แนะนำเป็น พัสดุย่อยทางอากาศค่ะ+เขียนใบศุลกากรสีเขียว ติ๊กว่า Gift นะคะ

อยากเช็คสถานะก็ เพิ่มลงทะเบียนอีก 65 บาท 

เพราะเหตุใดน่ะหรือ อ่านได้จากบล็อกคุณเสี่ยค่ะ

 http://siaengineer.blogspot.com/2013/07/cn22.html 

เราส่งแบบนี้ไปสวีเดนเร็วสุด 4 วันค่ะ

( เร็วกว่าพัสดุภายในประเทศอีก 555 อาจเป็นเพราะพัสดุได้จังหวะกับเที่ยวบินพอดี 

ไม่ต้องรอเครื่องนาน) ช้าสุดประมาณ 2-3 วีคค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านนะคะ  หวังว่าคงเป็นประโยชน์ได้บ้าง ^___^

*NOTE การส่งแบบพัสดุย่อยมีข้อจำกัดคือนน.ต้องไม่เกิน 2 กิโลกรัมไม่ตึดกาวไม่ติดผนึกใดๆทั้งสิ้น ผูกเชือกอย่างเดียวค่ะ เพื่อทางศุลกากรจะทำการเปิดสุ่มตรวจได้และที่สำคัญต้องไม่มีจอดหมายหรือแม้แต่ข้อความใดๆใส่ลงไปในตัวพัสดุนะคะ **อย่าลืม55

จำหน่ายเครื่องประดับสไตล์ยุโรป ราคาไม่แพง เรียบเก๋ ใส่ได้ตลอดกาล#2

แวะมาอัฟบล็อกกันหน่อยเปลี่ยนชื่อร้านจาก  Classy Garderop 

เป็น YOU ARE WHAT YOU WEAR

สินค้าส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องประดับค่ะ เลยแปลงจากสำนวนที่ว่า " You Are What You Eat "
เป็น "You Are What You Wear" และเนื่องจากเรารับพรีออเดอร์เครื่องประดับ แบบไม่มีปิดรอบ ก็เลยเป๊ะ!!กะชื่อย่อและความหมายในภาษาไทยว่า Y.A.W ( ย.า.ว )
( แต่ยังใช้ URL เดิมนะคะ )

เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา นำเสนอสินค้าเลยละกันค่ะ^^

CUFF BRACELETS

กำไลข้อมือสไตล์ยุโรป ปรับขนาดได้

กำไลต้นแขน Armlet


ส่วนสินค้าที่มาจากประเทศอื่นจะราคาสูงหน่อยเนื่องจากค่าส่งแพงนะคะ อย่างเช่น

กำไลยาวสีทองจากอิเดีย ราคาอยู่ที่ 610 ฿   และ กำไลยาวสีทองรูพระพิฆเณควร ราคา 660 ฿

Ear Cuff, Ear Clip ต่างหูแบบเจาะหนีบบนข้างเดียว

แหวนข้อนิ้วฮิปปี้วงใหญ่ 100฿

สินค้านำเข้าจากฮ่องกงราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักร้อย

ทุกชิ้นมีขายที่ www.youarewhatyouwear.in.th

สินค้าหน้าร้านจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามการอัฟเดทของร้านค้าในตปท.ค่ะ

ฉนั้น..ชอบอันไหน อย่ารอช้า รีบคว้า เลยคร๊าาาา

เครื่องประดับเน้นแบบเรียบๆ ดูชิคๆ แบบไม่มีวันเอาท์ ^^

กำไลข้อมือยาว Cut Out Hallow ราคา 350  220฿

แบบเดียวกับคุณปลาThe Voice สีGolden,Rose Gold 

ต่างหูแฟชั่นคริสตัล ราคา 70฿ 

 แหวนงูสีทองและสีเงิน ไซส์7 ปรับขนาดได้นิดหน่อยค่ะ ราคา 65฿

Ear Cuff, Ear Clip Stud Earring  ราคา 

 ต่างหูข้างเดียวสไตล์ H&M Asos สีเงิน และ สีทอง

ที่ผูกผมสีทองและเงินสไตล์ H&M ชิ้นเดียว 79 ฿  4 ชิ้น 260฿ ค่ะ

                                                Choker Necklace สร้อยเรียบสไตล์ H&M

สร้อยคอ cuff necklace ไม่ว่าจะไปรเวท, ทำงาน 

match กะทุกชุดทุกแนวไม่ว่าจะ Glam rock, casual style แนวไหนก็ใส่ได้ ราคา 170-

  

เอาล่ะ พอเป็นน้ำจิ้ม...ฝากร้านด้วยนะคะ แวะเวียนเข้ามาได้ที่

www.youarewhatyouwear.in.th

สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่อยากเป็นตัวแทนจำหน่าย

ทางร้านมีบริการส่งแทนสำหรับสมาชิกร้านหรือDrop ship.

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

yawboutique@gmail.com